ธาตุเหล็ก (Iron)

ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการต่างๆ ของร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนในเซลล์เม็ดเลือดแดงที่นำออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย และไมโอโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ให้ออกซิเจนแก่กล้ามเนื้อ นอกจากนี้ ยังจำเป็นในการสร้างฮอร์โมนบางชนิด

หากร่างกายของเราได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จะทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า และอาจส่งผลต่อการทำงานของสมองไปจนถึงส่งผลต่อความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับเชื้อโรค การขาดธาตุเหล็กอย่างรุนแรงขณะตั้งครรภ์อาจเพิ่มความเสี่ยงทารกคลอดก่อนกำหนดหรือตัวเล็กกว่าปกติ

นอกจากนี้ ธาตุเหล็กยังจำเป็นต่อเซลล์ผิวหนัง ผม และเล็บ

เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ เลือด เนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อแดง ไข่แดง หอย ผักสีเขียวเข้ม เช่น ผักโขม คะน้า บร็อคโคลี่

การกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง คู่กับอาหารที่มีวิตามินซีสูง จะช่วยให้ธาตุเหล็กดูดซึมได้ดีขึ้น

1. ลดความเหนื่อยล้าและความเมื่อยล้า
2. ช่วยให้ร่างกายมีพลังงาน
3. มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและการทำงานของฮีโมโกลบินซึ่งนำออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกาย
4. เพิ่มประสิทธิภาพทางร่างกายและอารมณ์
5. ช่วยให้การทำงานของสมองเป็นปกติ ทั้งในเรื่องการตัดสินใจ การใช้เหตุผล การเรียนรู้ และสติปัญญา
6. ช่วยในการทำงานที่สำคัญต่างๆ ของร่างกาย
7. ช่วยให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเป็นปกติ
8. ช่วยให้มีการตั้งครรภ์ที่แข็งแรง
9. ช่วยการพัฒนาการของร่างกายและทำงานของกล้ามเนื้อ
10. ช่วยสมรรถภาพในการเล่นกีฬา
11. ช่วยให้สุขภาพดีมีชีวิตชีวา
12 ช่วยการทำงานของวัคซีนให้มีประสิทธิภาพ

การขาดธาตุเหล็กเกิดจากร่างกายได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ อาจเกิดจากร่างกายไม่สามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้เพียงพอต่อความต้องการฃ สาเหตุส่วนใหญ่ของการขาดธาตุเหล็กคือการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอและไม่ได้กินธาตุเหล็กเสริม ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ธาตุเหล็กจำเป็นสำหรับการสร้างเฮโมโกลบินและเพื่อผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงเพื่อนำออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกาย หากไม่มีฮีโมโกลบินเพียงพอ กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อของเราจะไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอและไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ สามารถนำไปสู่โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กได้

อาการของการขาดธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กมีความสำคัญสุขภาพ อาการของการขาดธาตุเหล็กรวมถึง:
– เหนื่อยล้า
– อ่อนแรง
– หายใจหอบเหนื่อย
– ขาดสมาธิ
– หงุดหงิดง่าย
– ซีด
– ใจสั่น
– อาการวิงเวียนศีรษะ มึนงง
– ปวดศีรษะ
– ผมร่วง
– ผิวแห้ง
– ประสิทธิภาพทางร่างกายและจิตใจแย่ลง

หากคุณรู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย การพบแพทย์เพื่อการตรวจหาและวินิจฉัยการขาดธาตุเหล็กทำได้ง่ายด้วยการตรวจเลือด

ร่างกายของเราควรได้รับปริมาณธาตุเหล็ก ต่อวัน อยู่ที่ปริมาณ 15 มิลลิกรัม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการขาด

เราสามารถป้องกันการขาดธาตุเหล็ก โดยกินอาหารที่มีธาตุเหล็กในปริมาณที่เพียงพอและการเสริมธาตุเหล็กสามารถช่วยป้องกันการขาดธาตุเหล็กได้

– หญิงตั้งครรภ์ ความต้องการธาตุเหล็กจะสูงขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์
– ผู้หญิงที่มีประจำเดือนออกมาก
– ทารกและเด็กเล็กมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งต้องการธาตุเหล็กในปริมาณที่เพียงพอ
– ผู้ป่วยโรคมะเร็ง เช่น ผู้ที่เป็นมะเร็งลำไส้มีอัตราการขาดธาตุเหล็กสูงขึ้น
– ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารบางชนิด
– ผู้ที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลว มักมีแนวโน้มที่จะมีระดับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ
– ผู้บริจาคโลหิตเป็นประจำ

หากร่างกายมีธาตุเหล็กปริมาณต่ำ การกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แพทย์อาจแนะนำให้กินธาตุเหล็กเสริม

ธาตุเหล็กเสริมอาจอยู่ในรูปของแคปซูล ยาเม็ด ยาเม็ดเคี้ยว และยาน้ำ ควรให้แพทย์หรือเภสัชกรเป็นผู้แนะนำในการเสริมธาตุเหล็ก เพราะการได้รับธาตุเหล็กมากเกินความต้องการของร่างกายอาจทำให้เกิดภาวะเหล็กเกินและเกิดผลกระทบต่อร่างกายที่ร้ายแรงได้

สำหรับคนส่วนใหญ่ ค่าเม็ดเลือดแดงจะกลับเข้าสู่ปกติหลังจากรักษาด้วยธาตุเหล็กเป็นเวลา 2 เดือน โดยปกติแล้วจะแนะนำให้กินเสริมต่อไปอีก 6 ถึง 12 เดือนเพื่อสะสมธาตุเหล็กในไขกระดูก

ธาตุเหล็กจะถูกดูดซึมได้ดีที่สุดในขณะท้องว่าง แต่อาจทำให้ปวดท้อง คลื่นไส้ และท้องเสียได้ในบางคน ดังนั้น อาจกินธาตุเหล็กกับอาหารเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ไม่ควรกินนม แคลเซียม และยาลดกรดพร้อมกับอาหารเสริมธาตุเหล็ก ควรกินห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพราะจะทำให้มีปัญหาการดูดซึมที่ลดลง

การกินวิตามินซีหรือดื่มน้ำส้มพร้อมกับธาตุเหล็ก จะช่วยให้ธาตุเหล็กดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น

ผลข้างเคียงของการเสริมธาตุเหล็ก เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อุจจาระสีเข้ม หรือท้องผูก หญิงตั้งครรภ์จะมีอาการท้องผูกได้ง่ายเป็นพิเศษ การเพิ่มกากใยในอาหารสามารถช่วยบรรเทาอาการนี้ได้ การเริ่มต้นด้วยปริมาณธาตุเหล็กในปริมาณต่ำ แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณจนถึงปริมาณที่แนะนำในแต่ละวันอาจช่วยลดผลข้างเคียงได้

Personalized Vitamin

วิตามินเฉพาะบุคคล
เหมาจ่าย
2,800 บาท/เดือน

รายละเอียดเพิ่มเติม

2 Check แพคเกจ

เช็คความเสื่อมและตรวจวิตามินดี

2,100 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

Basic Nutrient (Blood Vitamin Test)

แพคเกจตรวจ
วิตามินและแร่ธาตุพื้นฐาน
ด้วยวิธีการตรวจเลือด

5,490 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

Ref.

1. webmd.com/vitamins-and-supplements
2. ods.od.nih.gov/factsheets
3. beelinehealthcare.com/iron/
4. medlineplus.gov

ข้อมูลโดย

ภญ. ปฐมา เทพชัยศรี
เภสัชกรคลินิก แผนกเภสัชกรรม
โรงพยาบาลบีเอ็นเอช

คุณนั้นแตกต่าง วิตามินของคุณก็เช่นกัน
ชุดวิตามินที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะคุณ

BNH VITAMIN THERAPY

ศาสตร์การบำบัดด้วยวิตามิน

ทำแบบประเมิน

มาค้นหาว่าจริงๆแล้วร่างกายของคุณต้องการอะไร
ใช้เวลาเพียง 5 นาที เพื่อทำแบบประเมิน
คุณจะได้รับวิตามินเฉพาะบุคคล ส่งถึงประตูบ้าน