ดูแลปัญหาสิวให้ลึกถึงต้นตอ แก้ปัญหาอย่างตรงจุด เพื่อไม่ให้สิวกลับมาขึ้นอีก
ด้วยประสบการณ์การดูแลรักษาปัญหาสิวจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงามโรงพยาบาล บีเอ็นเอช การวิเคราะห์ผิวหน้า เพื่อหาสาเหตุของสิวอย่างแท้จริง และรักษาอย่างตรงจุด ไม่ใช่รักษาตามอาการซึ่งเป็นปลายเหตุ และรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางในการดูแลรักษาสิวฮอร์โมนได้อย่างถูกต้องกรณีมีภาวะฮอร์โมนผิดปกติ การแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นตอการเกิดสิวจะไม่ทำให้สิวกลับมาเป็นอีก สิวขึ้นซ้ำซากทำให้ใบหหน้าดูหมองไม่สดใส ทั้งยังทิ้งรอยดำ รอยแดง หรือหนักสุดคือหลุมสิว ทำให้ผิวที่เรียบเนียนขรุขระถึงกลับขาดความมั่นใจไปเลย
BNH เข้าใจปัญหานี้เป็นอย่างดี เราได้ออกแบบโปรแกรมการดูแลสิวโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ไม่ใช่เพียงแต่การดูแลปัญหาสิว แต่ดูแลผิวให้กลับมาสุขภาพดี แข็งแรง ป้องกันการเกิดสิวซ้ำ รวมถึงให้คำปรึกษาเรื่อง สกินแคร์ที่ใช้ประจำวัน เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผิวกลับมาสดใส พร้อมเพิ่มความมั่นใจ
“ไม่ใช่แค่หน้าหมดสิว แต่ให้ผิวสุขภาพดี”
โปรแกรมรักษาสิว มีกี่ประเภท เหมาะสำหรับใครบ้าง?
โปรแกรมรักษาสิว ครอบคลุมการตรวจอะไรบ้าง?
- ตรวจวิเคราะห์สภาพผิวหน้าโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ รวมพบแพทย์ตลอดการรักษา 6 ครั้ง ประเมินสาเหตุที่มาของการเกิดสิว เพื่อแก้ไขปัญาหาอย่างถูกต้องและรักษาอย่างตรงจุด และไม่กลับมาเป็นซ้ำ
- เคลียร์สิวบนใบหน้าด้วยการกดสิว และฉีดสิว โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- แก้ปัญหาสิวไม่ให้เกิดซ้ำ ดูแลรักษาใบหน้าให้สดใส ลดปัญหารอยดำ รอยแดง หรือหลุมสิวดูแลให้กลับมามีผิวที่เรียบเนียน (ตามโปรแกรมที่เลือก)
- เลือกผลัดผิวอย่างอ่อนโยน ทำความสะอาดรูขุมขน และคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่หรือ ผลักวิตามินเข้าสู่ผิวเพื่อบำรุงฟื้นฟูผิวหน้า
- Perfect Revival Mask มาส์กสกัดจากธรรมชาติ ช่วยผ่อนคลายผิวหน้า ลดการอักเสบของสิว และเพิ่มความชุ่มชื้น
- Tele-Consult ให้คำปรึกษาในการดูส่วนประกอบของเครื่องสำอาง และช่วยเลือกสกินแคร์ที่ใช้อย่างเหมาะสม
ระยะเวลาโปรแกรมการรักษา
- ประมาณ 2 – 3 เดือน (รวมพบแพทย์ตลอดการรักษา 6 ครั้ง)
- ระยะเวลาให้บริการ ครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง
เรื่องสิวที่ควรรู้
เมื่อพูดถึงสิวแล้วหลายคนอาจ มองว่าเป็นปัญหาของวัยรุ่น เพราะเป็นวัยที่ฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนแปลง และทำงานมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เองส่งผลทำให้เกิดสิว แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิวจากฮอร์โมน ไม่ได้เป็นปัญหาแต่เฉพาะวัยรุ่นเท่านั้น ในวัยผู้ใหญ่ วัยทำงาน หรือ วัยใกล้หมดประจำเดือน ก็สามารถ พบเจอปัญหาสิวจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ได้เช่นกัน
สาเหตุของการเกิดสิวมีหลายประการ เช่น การอุดตันของผิวหนัง จากเครื่องสำอาง เซลล์ผิวหนังที่ตายและอุดตัน ความไม่สมดุลของแบคทีเรีย รวมถึงการเปลี่ยนแปลง ไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย จากภาวะเครียด ช่วงมีประจำเดือน ภาวะหรือโรคที่มีการตกไข่ผิดปกติ เช่น มีcyst หรือ ถุงน้ำในรังไข่ ทำให้ฮอร์โมน androgen มีสัดส่วนสูงกว่าฮอร์โมนอื่น ส่งผลให้ต่อมไขมัน ทำงานมากขึ้น ผลิตไขมัน(sebum) เพิ่มขึ้น ประกอบกับผิวหนังมีการอุดตันจากชั้นเซลล์ผิวหนังที่ตาย เกิดเป็นสิวอุดตัน และมีแบคทีเรีย มาเปลี่ยนให้สิวอุดตัน กลายเป็นสิวอักเสบ ซึ่งเมื่อมีการอักเสบ และลุกลามกลายเป็นหนอง หรือ cyst จะมีโอกาสทิ้งรอยแผลเป็นได้ง่าย
บริเวณที่มักเป็นสิว
บริเวณผิวหน้าโดยเฉพาะ ช่วง T-zone หน้าผาก จมูก คาง แต่อาจพบบริเวณแก้มและแนวกรามได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ บริเวณหน้าอกและแผ่นหลัง ก็มีโอกาสเป็นสิวจากฮอร์โมน ได้ด้วย
การรักษาสิว
ยาทา : ยาปฏิชีวนะ ยา Benzoyl Peroxide ยากรดวิตามินเอ
ยารับประทาน : ยาปฏิชีวนะ ยาอนุพันธ์ของวิตามินเอ ยาต้านฮอร์โมนเพศชาย
การทำหัตถการ โดยการกดสิว และฉีดสิว
Laser และการใช้แสงต่างๆ ในการควบคุมและรักษาสิว
โดยแพทย์มักจะใช้การรักษามากกว่าหนึ่งชนิดร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
ภายหลังการรักษาสิว อาจจำเป็นต้องทำการรักษาแผลเป็นที่เกิดจากสิว ซึ่งมีหลายวิธี โดยการรักษาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเป็นสิว
- หลีกเลี่ยงการบีบ แคะ แกะ เกา บริเวณสิว
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ที่เหมาะกับผิว ทั้งสบู่ล้างหน้าที่อ่อนโยน ผลิตภัณฑ์ควบคุมความมัน หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวในกรณีที่ผิวแห้ง
- ควรหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่ระคายเคือง และแสงแดดจัด เนื่องจากยาบางชนิดทำให้ผิวหนังไวต่อแสง
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และใช้ยาตามที่แพทย์สั่งตามเอกสารกำกับ