เงื่อนไขการใช้บริการ
1. สงวนสิทธิ์การซื้อได้เพียง 1 ครั้ง ต่อแพ็กเกจ
2. สิทธิพิเศษนี้ หมดเขตภายใน 2 เดือน หลังจากที่ท่านลงทะเบียนสมัครสมาชิก BNH Family Plus
3. สิทธิพิเศษนี้ เฉพาะสมาชิก BNH Family Plus สำหรับคุณแม่ที่ฝากครรภ์และคลอดที่ รพ. BNH เท่านั้น รวมถึงญาติสายตรง
4. กรุณาทำนัดก่อนเข้ารับบริการ ที่ศูนย์สุขภาพสตรี ชั้น 4 โทร. 02-022-0700 ต่อ 4455,4456
5. ราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
6. ราคาดังกล่าวไม่รวมการตรวจรักษาเพิ่มเติมนอกเหนือจากรายการในแพ็กเกจ
สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก BNH Family Plus
สำหรับคุณแม่ที่ฝากครรภ์และคลอดที่ รพ. BNH เท่านั้น
รวมถึงญาติสายตรง
CO-TEST & Transvaginal Ultrasound
ราคาพิเศษ 5,600 บาท (จากปกติ 9,550 บาท)
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
- อัลตราซาวด์ดูความสมบูรณ์ของมดลูกและรังไข่

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Co-Test
โรคมะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer) เป็นโรคมะเร็งที่พบเป็นอันดับ2 ของผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม ด้วยเหตุผลดังกล่าว การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันความรุนแรงจากมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากการตรวจคัดกรองจะทำให้พบความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะทำให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหลายวิธี ซึ่งวิธีทีแม่นยำมากที่สุดคือ การตรวจทางเซลล์วิทยาร่วมกับการตรวจเชื้อไวรัสเอชพีวี(ความไวในการตรวจพบความผิดปกติในระยะก่อนเป็นมะเร็งได้มากกว่า99%)
- การตรวจทางเซลล์วิทยา หรือที่ที่รู้จักกันในชื่อ ตินแพร็พ แป๊บ เทสต์ (ThinPrep Pap Test) โดยใช้แปรงป้ายเก็บเซลล์จากปากมดลูกแล้วนำมาแกว่งในน้ำยาตินแพร็พ มีลักษณะพิเศษคือ สามารถสลายมูกเลือดและเม็ดเลือดแดงได้ จึงไม่มีมูกเลือดบดบัง เซลล์เรียงตัวแบบบาง ค้นหาเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น ใช้ระบบคอมพิวเตอร์คัดกรองเซลล์และยืนยันเซลล์มะเร็งอีกครั้งด้วยนักเทคนิคการแพทย์ มีความไวในการตรวจพบความผิดปกติในระยะก่อนเป็นมะเร็งได้มากถึง74%
- การตรวจเชื้อไวรัชเอชพีวี โดยการนำเซลล์ปากมดลูกที่ได้จากน้ำยาตินเพร็พไปตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวีกลุ่มความเสี่ยงสูง 14 สายพันธุ์ เพื่อพยากรณ์ความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคต โดยมีความไวในการตรวจพบความผิดปกติในระยะก่อนเป็นมะเร็งได้มากกว่า96 %
เหมาะสำหรับ ผู้หญิงที่อายุ 25 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อตรวจหาความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ควรตรวจทุก 3 ปี
การตรวจความผิดปกติของมดลูกและรังไข่โดยวิธี Tranvaginal Ultrasound
คือ การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เมื่อคลื่นเสียงกระทบกับเนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งความสามารถในการผ่านและการสะท้อนกลับไม่เท่ากัน หัวตรวจจะทำหน้าที่รับสัญญาณคลื่นเสียงสะท้อนกลับระดับต่างๆ ซึ่งบอกถึงความหนาแน่น และความลึกของเนื้อเยื่อนั้นแล้วนำสัญญาณที่ได้รับมาประมวลผลสร้างเป็นภาพขึ้นมา ซึ่งสามารถช่วยตรวจวินิจฉัยลักษณะมดลูก เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูก ลักษณะรังไข่ที่ปกติและผิดปกติ
โดยแพทย์จะสอดหัวตรวจอัลตร้าซาวด์ที่มีความแตกต่างจากหัวตรวจผ่านเข้าไปทางช่องคลอด ข้อดีคือหัวตรวจจะเข้าไปใกล้ตำแหน่งมดลูกและรังไข่ได้มากกว่าการตรวจทางหน้าท้อง จึงสามารถมองเห็นภาพของมดลูกและรังไข่จากจอมอนิเตอร์ได้ชัดเจนกว่าและไม่ต้องรอเวลาในการกลั้นปัสสาวะ
แพ็กเกจ BNH Family Plus CO-TEST & Transvaginal Ultrasound (TVS) เหมาะสำหรับใครบ้าง
• ผู้หญิงที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป หรือเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์
• ปวดท้องน้อย ประจำเดือนมาไม่ปกติ
• คลำพบก้อนที่ท้องน้อย
• หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคทางนรีเวช ควรเข้ารับการตรวจภายในเป็นประจำทุกปี
รายการตรวจ BNH Family Plus CO-TEST & Transvaginal Ultrasound (TVS)
• ตรวจความสมบูรณ์ของมดลูกโดยสูตินรีแพทย์
• ตรวจ ThinPrep Pap Test
• ตรวจความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ด้วยเครื่อง Transvaginal Ultrasound
• ค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล