ผู้ที่สามารถทาน Plasmalogen ได้
- ผู้ที่อายุ 20ปีขึ้นไป
- ผู้ที่อยากทานเพื่อป้องกันอัลไซเมอร์
- ผู้ที่มีอาการสมองเหนื่อยล้าต้องการลดความกังวล
- นอนไม่หลับ หรือหลับไม่ลึก (ช่วยให้คุณภาพการนอนดีขึ้น หลับลึกมากขึ้น)
- คนที่อารมณ์แปรปรวน หรือมีภาวะซึมเศร้า
- ผลจากการวิจัยพบว่า การรับประทานพลาสมาโลเจนจะเห็นผลที่ดีขึ้นในกลุ่มคนที่เป็นอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- ผู้มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือโรคพาร์กินสัน ฯลฯ สามารถทานอาหารเสริมPlasmalogen ควบคู่กับยาที่ทานอยู่ได้ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
- ในกรณีที่มีประวัติโรคทางระบบประสาทและสมอง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทาน
- สามารถทานควบคู่กับอาหารเสริมชนิดอื่นๆได้
- ทานติดต่อกันเป็นเวลานานได้โดยไม่มีผลกระทบใดๆ
ผู้ที่ไม่สามารถทาน Plasmalogen ได้
- ไม่แนะนำในผู้ที่มีประวัติแพ้หอย หรือแพ้อาหารทะเล
แนะนำวิธีการทานเป็นตามนี้นะคะ
- เพื่อป้องกันโรคอัลไซเมอร์/มีอาการซึมเศร้า รับประทานวันละ 1 เม็ดหลังอาหารเช้า
- หากมีอาการนอนไม่หลับ รับประทานครั้งละ 1 เม็ดก่อนนอน
- ในกรณีผู้สูงอายุที่เป็นอัลไชเมอร์ รับประทานครั้งละ 1 เม็ด 2 เวลาหลังอาหารเช้าและเย็น
- ในกรณีผู้สูงอายุที่เป็นอัลไชเมอร์ และมีอาการซึมเศร้า รับประทานครั้งละ 2 เม็ด 2 เวลาหลังอาหารเช้าและเย็น
หากมีอาการสมองเสื่อมในขั้นปานกลาง – รุนแรง รบกวนปรึกษาอาการและรายละเอียด โดสในการทานกับผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทาน
- หากทานเพื่อป้องกันสามารถทานได้อย่างต่อเนื่อง
- หากทานควบคู่ไปกับการรักษา ตามงานวิจัยจะเห็นผลชัดเจนหลังทานต่อเนื่องประมาณ 3 เดือน
ไขมัน (Fat) ในส่วนประกอบสารอาหาร (Nutrient Composition) ของผลิตภัณฑ์พลาสมาโลเจนเท่ากับ 0.02 กรัม
ดังนั้นการรับประทานพลาสมาโลเจน จึงไม่ส่งผลต่อภาวะไขมันในเลือดค่ะ
การประเมินภาวะสมองเสื่อมจะประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ BOOCS เป็นการประเมินด้วยการถามตอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ตามข้อบ่งชี้ความเสี่ยงสมองเสื่อม อาทิเช่น การวัดความจำ การรับรู้วันเวลาสถานที่ การคำนวณ การแต่งประโยค การนึกคิดคำศัพท์ และการวาดรูป
โดยจากผลการประเมินจะสามารถบอกได้ว่าผู้ประเมินมีความเสี่ยงที่จะเป็นอัลไซเมอร์/ภาวะสมองเสื่อมหรือไม่
ช่วงเวลาที่แนะนำประเมิน 2 ครั้ง
- ช่วงก่อน
- และหลังรับประทานพลาสมาโลเจน
การประเมินสามารถเลือกช่องทาง ได้ 2ช่องทาง
1. เข้ามาประเมินที่โรงพยาบาล หรือ
2. ประเมินออนไลน์ (VDO call / Tele-consultation)
**แต่หากประเมินแล้วเริ่มมีความเสี่ยง ทางผู้เชี่ยวชาญจะส่งต่อให้พบคุณหมอ
รายละเอียดและราคาประเมิน
- สำหรับผู้ซื้อแพคเกจ 4 กล่อง สามารถนัดประเมินฟรี 1 ครั้ง (มูลค่า 1,350 บาท) สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นประเมินแทนได้
- สำหรับผู้ที่ต้องการประเมิน โดยไม่ได้ซื้อแพคเกจ จะมีค่าใช้จ่ายในการประเมิน 1,350 บาท
แจ้งรายละเอียดใน LINE @MBRACE กับแอดมิน
เพื่อประสานงานให้ทางเจ้าหน้าที่แผนกติดต่อกลับ เพื่อทำนัดหมาย
- ชื่อ นามสกุล
- เบอร์โทร
- ช่องทางที่สะดวกประเมิน
(ที่โรงพยาบาล/ผ่านทาง VDO call ผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์) - ช่วงเวลาที่สะดวกในการประเมิน (สามารถทำการนัดหมายได้ทุกวัน ตามเวลา 9.00-16.00 น.) ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
- โดยทางเจ้าหน้าที่แผนกจะติดต่อกลับท่าน ในเวลาทำการ 8.00-16.00 น.
- ในเรื่องของประสิทธิภาพของตัวยา ออกฤทธิ์ได้เหมือนกัน
- แบบแคปซูล มีคุณสมบัติที่สามารถนาใช้รักษาผู้ป่วยสมองเสื่อมในระยะปานกลาง-รุนแรงได้ เนื่องจากสามารถเปิดแคปซูล และนำผงพลาสมาโลเจนมาละลายน้ำหรือผสมอาหารใหผู้ป่วยทานได้ และสามารถเก็บได้นาน รวมถึงรักษาคุณภาพได้ง่าย
- แบบเจล รักษาคุณภาพยาค่อนข้างยาก เนื่องด้วยสภาพภูมิอากาศในเมืองไทย และการขนส่ง รวมถึงหมดอายุเร็วกว่าแบบแคปซูล
- ทางโรงพยาบาลบีเอ็นเอช เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในประเทศไทยที่ผ่านการขอ อย.ประเทศไทย และนำเข้าพลาสมาโลเจนเฉพาะแบบแคปซูล
- Plasmalogen ผ่านการวิจัยจากประเทศญี่ปุ่น ส่วน Aduhelm ผ่านการวิจัยจากประเทศอเมริกา
- สามารถลดระดับ โปรตีนเบต้าอะมีลอยด์ในสมองได้ ตรวจจากการสแกนสมอง
- Aduhelm อาจมีผลข้างเคียงของยา อาทิเช่น ปวดหัว สับสน ท้องเสีย, delirium, disorientation, mental problem ในทางกลับกันพลาสมาโลเจนสามารถช่วยลดอาการปวดหัว มึนงง และรักษาอาการทางจิตเวชด้วย
- รอบการจัดส่งสินค้า
- จัดส่งเวลา 10.00 น. ของทุกวัน
- กรณีสั่งซื้อหลังเวลา 10.00 น. จะมีการจัดส่งในวันถัดไปนะคะ
- กรุงเทพ ระยะเวลาขนส่งประมาณ 1-2 วัน
- ต่างจังหวัด ระยะเวลาขนส่งประมาณ 3-5 วัน
- ทางเราจัดส่งให้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
พลาสมาโลเจน PLASMALOGEN (Plasmalogen Supplement) คืออะไร?
Plasmalogen Supplement คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากหอยเชลล์ญี่ปุ่น
พลาสมาโลเจน (Plasmalogen) เป็นสารที่พบเห็นโดยทั่วไปในโครงสร้างของสัตว์ต่างๆ และจะพบมากในเซลล์ประสาทสมองของมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในกระบวนการสื่อสารของเซลล์และป้องกันการอักเสบ จากการศึกษาพบว่าระดับพลาสมาโลเจนที่ลดลงนั้นสัมพันธ์กับการเสื่อมของระบบการรับรู้ เกิดความอ่อนล้าของสมอง และก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง และโรคซึมเศร้า เป็นต้น ปัจจัยต่างๆ เช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น การอักเสบของสมอง การติดเชื้อหวัด และ/หรือ ความเครียด ล้วนส่งผลให้ระดับพลาสมาโลเจนในร่างกายลดลง
ผลการศึกษายืนยันว่าการบำบัดด้วยการเพิ่มระดับของพลาสมาโลเจนและ DHA ช่วยให้อาการดีขึ้นในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ จึงประมาณการได้ว่าพลาสมาโลเจนมีผลช่วยลดการอักเสบของเซลล์
จากการวิจัยมากว่า 15 ปีของศาสตราจารย์เกียรติคุณแห่งมหาวิทยาลัยคิวชู และผู้ก่อตั้ง BOOCS Medical Group ประเทศญี่ปุ่น นายแพทย์ทาเคฮิโกะ ฟูจิโนะ พบว่าการที่ร่างกายของเราได้รับพลาสมาโลเจนจากหอยเชลล์ จะมีผลลัพธ์ในการฟื้นฟูสุขภาพสมอง โดยเฉพาะเมื่อรับประทานในช่วงที่ระดับพลาสมาโลเจนลดลง
หอยเชลล์ | เนื้อไก่ | |
EPA | 23.9% | – |
DHA | 38.9% | 18.6% |
อาการสมองเหนื่อยล้า/อ่อนล้า คืออะไร?
อาการที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าของสมอง ได้แก่ นอนไม่หลับ มีความกังวล อารมณ์แปรปรวน เหนื่อยล้าทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไร ไม่รู้สึกว่าอาหารมีรสชาติอร่อย ความจำสั้น/ไม่สามารถคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จิตใจหดหู่ ไม่มีความหวัง มีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง/ไขมันในเลือดสูง/เบาหวาน
เราจะสังเกตอาการยังไงว่าคนไข้สมองเสื่อมอาการแย่ลง?
ให้สังเกตจากอารมณ์ อาการหวาดระแวง เห็นภาพหลอน พูดคุย/สื่อสารเริ่มนึกคำไม่ออก เรียบเรียงประโยคไม่ได้ หรือฟังไม่เข้าใจ ตรรกะหรือการใช้เหตุผลแปลกไป
ส่วนประกอบที่สำคัญ:
พลาสมาโลเจนชนิดผงสกัดจากหอยเชลล์ (Powdered Scallop-derived Plasmalogen) 12.27 mg./มก.
ใครห้ามทานผลิตภัณฑ์นี้บ้าง?
ไม่แนะนำในผู้ที่มีประวัติแพ้หอย
เราสามารถวัดระดับพลาสมาโลเจนในเลือดได้หรือไม่?
ได้ เป็นการตรวจเลือด ส่งตรวจประเทศญี่ปุ่น ราคาท่านละ 8,700 บาท สามารถตรวจได้ปีละ 1-2 ครั้งตามรอบที่รพ.กำหนด
อยากตรวจพันธุกรรมความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ไหม?
ตรวจได้ ราคาประมาณ 2,900 บาทต่อท่าน ต้องพบแพทย์ก่อน
วิธีลดความเครียดในรูปแบบของ BOOCS ทำได้ด้วยวิธีอะไรบ้าง?
- ผ่อนคลายด้วยสายตาได้แก่การอ่านหนังสือดูภาพยนตร์
- ผ่อนคลายด้วยการดมกลิ่นได้แก่การเลือกดมกลิ่นอโรมาที่ชอบ
- ผ่อนคลายด้วยเสียงได้แก่การฟังเพลงการฟังเสียงสวดมนต์
- ผ่อนคลายด้วยการสัมผัสได้แก่การนวด
ต้องกินพลาสมาโลเจนไปนานแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายแต่ละท่าน บางท่านทานไป1-2 สัปดาห์ต่อเนื่องก็เห็นผลแล้ว บางท่านทาน1เดือนต่อเนื่องเห็นผล หรือบางท่านที่มีลักษณะอาการอยู่แล้วก็จะเห็นข้อแตกต่างได้ชัดขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นสัมพันธ์กับความ severity ของอาการด้วย หากอ้างอิงถึงงานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 3 เดือนเห็นผลชัดเจน
ขนาดรับประทานปรกติ: 1-2 แคปซูล
วิธีรับประทาน: หลังอาหารเช้า และเย็นครั้งละ 1 เม็ด
วัตถุประสงค์การบริโภค: เพื่อเพิ่มสารพลาสมาโลเจน
ข้อแนะนำในการเก็บรักษา: ควรเก็บไว้ในที่แห้ง หรือหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด/ร้อนจัด
ขนาดบรรจุ: 1 กล่องมี 60 เม็ด (230mg.)
อย.เลขที่ 10-3-34160-5-0001
วิธีการรับประทาน แบ่งตามจุดประสงค์?
– หากทานเพื่อป้องกันโรคอัลไซเมอร์/รักษาอาการซึมเศร้า รับประทานวันละ 1 เม็ดหลังอาหารเช้า
– หากทานเพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับ รับประทานครั้งละ 1 เม็ดก่อนนอน
– หากทานเพื่อรักษาอัลไซเมอร์ หรือผู้สูงอายุที่เริ่มมีอาการ รับประทานครั้งละ 1 เม็ด 2 เวลาหลังอาหารเช้าและเย็น
– หากทานเพื่อรักษาอาการอัลไซเมอร์ควบคู่กับอาการซึมเศร้า รับประทานครั้งละ 2 เม็ด 2 เวลาหลังอาหารเช้าและเย็น
หากมีอาการสมองเสื่อมในขั้นปานกลาง-รุนแรง รบกวนปรึกษาอาการ รายละเอียด และโดสในการทานกับผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทาน โดยแอด LINE @MBRACE >>> http://nav.cx/cUtztpg
เริ่มต้นจาก ความเครียด จากการใช้ชีวิตในแต่ละวันที่ทำให้เกิด
“ภาวะสมองเหนื่อยล้า” (Brain Fatigue)
ภาวะสมองเหนื่อยล้านี้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ เช่น
- โรคไขมันสูง
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคเบาหวาน
- โรคหัวใจ
- โรคมะเร็ง
- โรคซึมเศร้า
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคพาร์กินสัน
เราสามารถสังเกตอาการเหนื่อยล้าของสมองได้ หากมีอาการต่อไปนี้มากกว่า 2 ข้อ อาจเป็นข้อบ่งชี้ว่าคุณกำลังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการสมองเหนื่อยล้าได้
- ลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึก นอนไม่ค่อยหลับ
- ไม่รู้สึกว่าอาหารมีความอร่อย ไม่อยากอาหาร
- ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรแต่ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้า
- หงุดหงิดบ่อยครั้ง
- มีความเครียด กังวล ไม่มีเรี่ยวแรง
- ลืมนัดหมายสำคัญ
- ปวดท้อง ท้องผูก
- มีสิว มีอาการภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ งูสวัด
- จิตใจหดหู่ ไม่มีความหวัง
2 นวัตกรรม จากประเทศญี่ปุ่น

นายแพทย์ทาเคฮิโกะ ฟูจิโนะ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณแห่งมหาวิทยาลัยคิวชู
1.BOOCS (BRAIN ORIENTED ONESELF CARE SYSTEM)
เป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศญี่ปุ่นเพื่อการบำบัดความเหนื่อยล้าของสมอง (Brain Fatigue) ช่วยแนะนำวิธีการผ่อนคลายความเครียด ซึ่งนวัตกรรมนี้ได้มีการวิจัยมาอย่างยาวนานกว่า 18 ปี
BOOCS Medical Group เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งและค้นคว้าวิจัยโดยนายแพทย์ทาเคฮิโกะ ฟูจิโนะ ศาสตราจารย์เกียรติคุณแห่งมหาวิทยาลัยคิวชู และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
2.พลาสมาโลเจน (Plasmalogen Supplement) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากหอยเชลล์ญี่ปุ่น
พลาสมาโลเจน (Plasmalogen) เป็นสารที่พบเห็นโดยทั่วไปในโครงสร้างของสัตว์ต่างๆ และจะพบมากในเซลล์ประสาทสมองของมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในกระบวนการสื่อสารของเซลล์และป้องกันการอักเสบ จากการศึกษาพบว่าระดับพลาสมาโลเจนที่ลดลงนั้นสัมพันธ์กับการเสื่อมของระบบการรับรู้ เกิดความเหนื่อยล้าของสมอง และก่อให้เกิดโรคต่างๆ อาทิเช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง และโรคซึมเศร้า เป็นต้น รวมไปถึงปัจจัยต่างๆ ได้แก่ อายุที่เพิ่มมากขึ้น การอักเสบของสมอง การติดเชื้อหวัด และ/หรือ ความเครียด ล้วนส่งผลให้ระดับพลาสมาโลเจนในร่างกายลดลง
ผลการศึกษาในคนยืนยันว่าการบำบัดด้วยการเพิ่มระดับของพลาสมาโลเจน ช่วยให้อาการของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ดีขึ้นถึง 52%ในผู้ป่วยที่มีอาการทางสมองเสื่อมระดับกลาง(Moderated Cognitive impairment) หลังจากให้ผู้ป่วยรับประทานพลาสมาโลเจนวันละ 2 เม็ดติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน
ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่การรักษาในโลกปัจจุบันนี้มีอยู่อย่างจำกัด พลาสมาโลเจนเป็นทางเลือกหนึ่ง จากการศึกษาในประเทศญี่ปุ่น
ผลการวิจัยที่ ได้รับการตีพิมพ์ใน EBioMedicine 17 (2017) เผยให้เห็นประสิทธิภาพของ Plasmalogen
CLICK ดูผลการวิจัย
งานวิจัย พลาสมาโลเจน PLASMALOGEN
หลังทำคีโมรู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย คิดช้า ไม่มีเรี่ยวแรงอยากทำกิจกรรมใดๆ กินไม่ค่อยได้ ไม่เจริญอาหาร นอนไม่หลับ ต้องการเพิ่มน้ำหนัก อยากมีชีวิตชีวา มีเรี่ยวแรงมากขึ้น หลังจากเริ่มรับประทานอาหารเสริมพลาสมาโลเจน และเข้ารับคำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยมีความคิดตัดสินใจที่เร็วขึ้น น้ำหนักขึ้นเป็นแนวโน้มที่ดี มีความคิดเชิงบวกเพิ่มมากขึ้น เจริญอาหารมากขึ้น
มีอาการคิดว่าคนอื่นมาขโมยของๆตน หลังจากที่ครอบครัวของผู้ป่วยรายนี้ดูแลอย่างดีออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน ทำกิจกรรมบริหารสมองทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ 1-2ครั้ง ผู้ป่วยสามารถหยุดรับประทานยานอนหลับและยาอื่นๆได้ ทานแค่อาหารเสริม Plasmalogen อย่างเดียวอาการก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กินมากผิดปกติ น้ำหนักขึ้น อารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวง่ายจากการโดนความเครียดกระตุ้น หลังจากเข้ารับคำปรึกษาและเริ่มรับประทานอาหารเสริมพลาสมาโลเจน ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นในระยะเวลา 4.5 เดือน
มีปัญหาฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่ำ เข้ามารับคำปรึกษาควบคู่กับการพบแพทย์ทาง IVF และรับประทาน plasmalogen+pregnable ต่อเนื่อง 3เดือน ซึ่งใน 7 เดือนต่อมาก็ได้ให้กำเนิดบุตรชาย สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์
หลังจากได้รับคำปรึกษาและรับประทานพลาสมาโลเจนอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นผลที่ดีขึ้นจากผลการตรวจ
อารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย เนื่องจากมีภาวะซึมเศร้า หลังจากทานอาหารเสริมพลาสมาโลเจนประมาณ 1 อาทิตย์ พบว่าผู้ป่วยอารมณ์นิ่งขึ้น