
แพ็กเกจตรวจสุขภาพตาเชิงลึก ราคา 3,900 บาท
บีเอ็นเอชขอแนะนำโปรแกรมการตรวจที่ครอบคลุมทุกปัญหาเกี่ยวกับดวงตา เพื่อตรวจคัดกรองสุขภาพดวงตาและสายตา และค้นหาความเสี่ยงของการเกิดโรคทางตาต่างๆ เช่น ต้อหิน ต้อกระจก โรคเกี่ยวกับจอประสาทตา เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไปที่ต้องการดูแลสุขภาพตาและตรวจตาประจำปี ผู้ที่ใช้สายยตาเยอะ หรือ มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตาและสายตา ผู้ที่ทำเลสิก
รายละเอียดโปรแกรม
• ตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์ Eye examination
• วัดระดับการมองเห็น/ตรวจตาบอดสี Visual acuity/Color vision test
• ตรวจดวงตาและต้อกระจกด้วยเครื่อง Slit Lamp microscope
• ตรวจวัดความดันลูกตาและความหนาของกระจกตา IOP
• ตรวจวัดสายตา สั้น ยาว เอียง และความโค้งกระจกตา Auto-Refraction
• ตรวจลานสายตา Visual field
• สแกนจอประสาทตาและขั้วประสาทตา Optical Coherence Tomography-OCT
• ตรวจจอประสาทตาด้วยภาพถ่าย Fundus camera
ราคารวมค่าแพทย์ และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
(วันนี้ – 31 ธ.ค. 2566 เท่านั้น)
ทำไมต้องตรวจตา
เพราะดวงตาเป็นเสมือนประตูสู่โลกกว้าง ที่ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข อย่าละเลยที่จะดูแลดวงตาให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มสูงวัยขึ้น ดวงตาที่เราใช้มาตลอดชีวิตก็ย่อมเสื่อมถอยเป็นธรรมดา ดังนั้นการตรวจสุขภาพตากับจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำทุกปี เพื่อคัดกรองความเสี่ยงที่อาจเกิดกับดวงตาอย่างสม่ำเสมอ แม้ยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถรักษาดวงตาคู่นี้ให้อยู่กับเราได้ตลอดไป
โรคเกี่ยวกับดวงตาหลายโรคเป็นอันตรายต่อการสูญเสียการมองเห็นในระยะยาว เช่น โรคต้อหิน โรคต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม และ โรคเบาหวานขึ้นจอตา เป็นต้น
ประโยชน์สำคัญในการตรวจตา
- เพื่อตรวจให้พบปัญหาสายตา ปัญหาการมองเห็น เพื่อการมีสายตาที่ดีที่สุด หรือในผู้สูงอายุที่มักมีภาวะสายตาผู้สูงอายุ การตรวจพบปัญหาและรับการแก้ไขอย่างถูกวิธี จะทำให้การมองเห็นดีขึ้นเป็นปกติ ช่วยให้ประสิทธิภาพการเรียนและการทำงานดีขึ้น
- เพื่อค้นหาโรคทางตา ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียสายตาทั้งชั่วคราวและถาวร เพราะโรคเกี่ยวกับตาบางโรคอาจไม่มีอาการแสดงในระยะเริ่มต้น หากได้รับการวินิจฉัยได้แต่แรกเริ่ม จะสามารถทำการรักษาง่ายและได้ผลดีกว่า
- การตรวจตาอย่างละเอียดอาจช่วยให้พบโรคเรื้อรังทางกายที่ซ่อนอยู่ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคเลือดแม้แต่โรคเอดส์ เป็นต้น
- เทคโนโลยีต่างๆ ในปัจจุบัน อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพตาเช่นกัน เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้คอนแทคเลนส์เพื่อความสวยงามของดวงตา
ควรเข้ารับการตรวจตาที่อายุเท่าไหร่
บุคคลทั่วไป ทุกคน ทุกวัย ควรเข้ารับการตรวจตากับจักษุแพทย์เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจคัดกรองตาอย่างละเอียดทุกปี ไม่ควรละเลยเป็นอันขาด แม้จะไม่มีอาการผิดปกติ หรือความเสี่ยงใดๆ
เนื่องจากโรคทางตาที่พบบ่อยหรือการเปลี่ยนแปลงของสายตามักจะเริ่มที่ช่วงอายุนี้ เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือต้อชนิดต่างๆ ที่อาจส่งผลไปสู่การสูญเสียดวงตาได้ นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง อุบัติเหตุเกี่ยวกับตา หรือสูญเสียการมองเห็นในตาข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้าง มีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคทางตา เช่น ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม ทำงานที่ใช้สายตามาก ใช้ยาที่มีผลต่อตา หรือชอบใส่คอนแทคเลนส์ ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองตาเช่นกันโดยไม่ต้องรอให้ถึงอายุ 40 ปี
ชนิดและวิธีการตรวจคัดกรองดวงตา
แผนกตา โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ให้บริการดูแลสุขภาพดวงตาแบบครอบคลุมครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุด ประกอบกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อผลการตรวจที่รวดเร็วและแม่นยำ ให้ดวงตาคู่สวยอยู่กับคุณไปนานเท่านาน
- ตรวจสุขภาพตาโดยละเอียด
- ตรวจรักษาโรคตาทุกประเภท เช่น ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อหิน โรคจอประสาทตา โรคตาอักเสบและติดเชื้อ โรคภูมิแพ้ดวงตา เป็นต้น
- ตรวจจอประสาทตาเสื่อมโดยละเอียด (Optical Coherence Tomography) ช่วยวิเคราะห์ชั้นต่างๆ ของจอประสาทตา และขั้วประสาทตา โดยใช้เลเซอร์สแกนถ่ายภาพตามขวาง และวัดดูการสะท้อนกลับของแสงเพื่อดูชั้นต่างๆ ของจอประสาทตา ดูความลึกของขั้วประสาทตา และวัดความหนาของจอประสาทตา หากตรวจพบความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมจะได้วางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที ทั้งนี้ ความผิดปกติบางอย่างอาจเป็นความเสี่ยงของโรคตา เช่น มุมตาแคบ หรือปิด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดต้อหินเฉียบพลันได้
- ตรวจวัดลานสายตา ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจการมองเห็นในมุมกว้างว่ามีความผิดปกติของการมองเห็นด้านข้างหรือไม่
- ตรวจสุขภาพตาเพื่อทำใบขับขี่, ตรวจตาบอดสี
- ตรวจวัดสายตาประกอบแว่น หรือ คอนแทคเลนส์
- การรักษาโรคตาโดยใช้แสงเลเซอร์
- การรักษาโรคตาโดยการผ่าตัดผ่านกล้อง Microscope
บุคลากรและเครื่องมือทางการแพทย์
- ทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษา พร้อมด้วยพยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วย
- เทคโนโลยีตรวจวินิจฉัยและเครื่องมือรักษาอันทันสมัย ประกอบด้วย
- เครื่องวัดความดันในลูกตา (Goldmann Applanation Tonometry)
- เครื่องมือวัดความดันตาชนิด (Tono-Pen hand-held) ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยที่ไม่สามารถนั่งตรวจหน้ากล้อง(Slit lamp) ได้
- เครื่องมือวัดความหนาของกระจกตา (Pachymeter) ช่วยในการวินิจฉัยภาวะสงสัยต้อหินในกรณีที่พบระดับความดันลูกตาสูง (Glaucoma suspect, ocular hypertension) และต้อหินในระดับความดันปกติ(Normal Tension Glaucoma) ซึ่งช่วยประเมินความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ
- เครื่องตรวจวิเคราะห์ความหนาของเส้นใยประสาทตา (Retinal nerve fiber layer)
(Spectral Domain Optical Coherence Tomography หรือ SD-OCT) ใช้ในการตรวจใช้ในการวินิจฉัยต้อหินในระยะแรกเริ่ม และใช้ในการติดตามการรักษา - เครื่องวัดลานสายตาเพื่อวิเคราะห์การดำเนินของโรค (Visual Field Test) ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จึงให้ผลการตรวจที่แม่นยำและรวดเร็วกว่า
ถ่ายรูปขั้วประสาทตา ด้วยเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตา - เครื่องเลเซอร์ Nd : YAG รักษาต้อหินชนิดมุมปิด,ถุงหุ้มเลนส์ตาขุ่น
- เลเซอร์ Argon รักษาเบาหวานขึ้นจอประสาทตา,เส้นเลือดฝอยในตาแตก,จอประสาทตาถลอก
- กล้อง Microscope สำหรับใช้ในการผ่าตัดรักษาดวงตา
- เครื่องสลายต้อกระจกด้วยคลื่นเสียง
- กล้องตรวจจอประสาทตา